Uncategorized

‘เบี้ยผู้สูงอายุ’ เดือนมีนาคม 2567 ล่าสุด เงินเข้าวันไหน เช็กเลย!

'เบี้ยผู้สูงอายุ' เดือนมีนาคม 2567 ล่าสุด เงินเข้าวันไหน เช็กเลย!

เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ หรือ เงินผู้สูงอายุ เดือนมีนาคม 2567 ล่าสุด เงินเข้าวันไหน เช็กเลย!

เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ สิทธิประโยชน์ที่ผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป พึงได้รับจากรัฐบาล เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพของผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นสิทธิและสวัสดิการที่ผู้สูงอายุชาวไทยทุกคนจะได้รับ โดยจะได้รับเงินแบบขั้นบันได ในอัตราเริ่มตั้งแต่ 600-1,000 บาท ใครยังไม่เคยลงทะเบียน ก็สามารถลงทะเบียนได้ตามรอบที่กำหนด เพื่อรับเงินในปีงบประมาณถัดไป สำหรับ “เงินผู้สูงอายุเดือนมีนาคม 2567” เงินเข้าวันไหน มีเงื่อนไขแบบเดิมหรือไม่ ไปตรวจสอบกันเลย

ลงทะเบียนรับสิทธิ เงินผู้สูงอายุ ต้องทำอย่างไร

ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 59 ปีบริบูรณ์สามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ของปีนั้น และเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปีถัดไป ก็จะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุตั้งแต่เดือนตุลาคม ในปีนั้น ๆ โดยสามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพด้วยตัวเองได้ตั้งแต่วันที่ 1-30 พฤศจิกายนของทุกปี

ทั้งนี้ ผู้สูงอายุสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมของทุกปีเป็นต้นไป โดยจะต้องเป็นผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน-1 ตุลาคม ของปีนั้น ๆ จึงจะลงทะเบียนล่วงหน้าได้ โดยเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพถัดจากเดือนที่มีอายุครบ 60 ปี นั่นคือ เดือนตุลาคมของปีนั้น

เกณฑ์รับเบี้ยผู้สูงอายุ

  • มีสัญชาติไทย
  • มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
  • มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ซึ่งได้ยืนยันสิทธิขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
  • เป็นผู้ไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ ตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด
  • ตอนนี้ยังไม่มีการกำหนดคุณสมบัติอย่างชัดเจนเรื่องเกณฑ์การชี้วัดรายได้ที่ไม่เพียงพอ ให้ใช้ระเบียบการเบิกจ่ายฉบับเดิมไปก่อน จนกว่าจะมีการกำหนดคุณสมบัติอย่างชัดเจน

การจ่ายเงินเบี้ยผู้สูงอายุ ปี 2567

มีนาคม : วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม 2567
เมษายน : วันพุธที่ 10 เมษายน 2567
พฤษภาคม : วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม 2567
มิถุนายน : วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2567
กรกฎาคม : วันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2567
สิงหาคม : วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม 2567
กันยายน : วันอังคารที่ 10 กันยายน 2567
ตุลาคม : วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2567
พฤศจิกายน : วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2567
ธันวาคม : วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2567

วิธีการรับเงินผู้สูงอายุ

  • รับเงินสดด้วยตนเอง
  • รับเงินสดโดยบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิ
  • โอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารในนามผู้มีสิทธิ
  • โอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารในนามบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิ

การจ่ายเบี้ยยังชีพที่ผู้สูงอายุได้รับตามขั้นบันได

  • ผู้สูงอายุ 60-69 ปี จะได้รับเบี้ยยังชีพ 600 บาท
  • ผู้สูงอายุ 70-79 ปี จะได้รับเบี้ยยังชีพ 700 บาท
  • ผู้สูงอายุ 80-89 ปี จะได้รับเบี้ยยังชีพ 800 บาท
  • ผู้สูงอายุ 90 ปีขึ้นไป จะได้รับเบี้ยยังชีพ 1,000 บาท

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเตรียมรับ “เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ” เพิ่มรวม 900 บาท ในระยะเวลา 9 เดือน เริ่มโอนงวดแรก 11-13 มี.ค.นี้

ผู้สูงอายุที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เตรียมตัวรอรับเงินพิเศษ ตามมติของคณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุกันได้เลย หลังจากมีการอนุมัติให้จ่ายในอัตรา100 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 9 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 2567 โดยจ่ายเป็นรายไตรมาส และกำหนดจ่ายงวดแรกวันที่ 11-13 มีนาคม 2567

โดยจะโอนเงินผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่

(1) บัญชีเงินฝากธนาคารที่ผู้มีสิทธิแจ้งตามหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่นหรือบัญชีบุคคลอื่น

(2) บัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนของผู้มีสิทธิ

 บัตรสวัสดิการฯ เตรียมรับ “เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ” เพิ่ม เริ่มโอนงวดแรก 11-13 มี.ค.

ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิที่ยังไม่ได้ยืนยันตัวตน (e-KYC) สามารถไปยืนยันตัวตนได้ที่ ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา สำหรับผู้มีสิทธิที่ไม่สามารถผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนได้ (ผู้พิการ/ผู้ป่วยติดเตียง/และหรือผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ที่ไม่สามารถเปิดบัญชีหรือผูกพร้อมเพย์ได้) สามารถแจ้งความประสงค์ให้โอนเงินเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่น หรือเข้าบัญชีบุคคลอื่น

โดยดาวน์โหลดแบบฟอร์มหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่น หรือเข้าบัญชีบุคคลอื่น ได้ทางเว็บไซต์โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 (https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th/) หรือขอรับและยื่นแบบฟอร์มได้ที่กรมบัญชีกลาง หรือสำนักงานคลังจังหวัด ทุกจังหวัด

ส่วนในการกำหนดจ่ายอีก 2 งวดที่เหลือนั้น งวดถัดไปจะตรงกับวันที่ 11-13 มิถุนายน 2567 และงวดสุดท้ายตามมตินี้จะตรงกับวันที่ 11-13 กันยายน 2567

เช็กเงื่อนไขการรับสิทธิ์

เงื่อนไขการได้รับสิทธิเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพ แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ประจำปีงบประมาณ 2567 มีดังต่อไปนี้

  • เกิดก่อน 1 มกราคม 2507 จะได้รับสิทธิเดือนมกราคม-กันยายน 2567 โดยแบ่งจ่ายเป็น 3 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 มีนาคม 2567 จำนวน 300 บาท, ครั้งที่ 2 มิถุนายน 2567 จำนวน 300 บาท, ครั้งที่ 3 กันยายน 2567 จำนวน 300 บาท
  • เกิดระหว่าง 1 – 31 มกราคม 2507 จะได้รับสิทธิเดือนกุมภาพันธ์-กันยายน 2567 โดยแบ่งจ่ายเป็น 3 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 มีนาคม 2567 จำนวน 200 บาท, ครั้งที่ 2 มิถุนายน 2567 จำนวน 300 บาท, ครั้งที่ 3 กันยายน 2567 จำนวน 300 บาท
  • เกิดระหว่าง 1 – 29 กุมภาพันธ์ 2507 จะได้รับสิทธิเดือนมีนาคม-กันยายน 2567 โดยแบ่งจ่ายเป็น 3 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 มีนาคม 2567 จำนวน 100 บาท, ครั้งที่ 2 มิถุนายน 2567 จำนวน 300 บาท, ครั้งที่ 3 กันยายน 2567 จำนวน 300 บาท
  • เกิดระหว่าง 1 – 31 มีนาคม 2507 จะได้รับสิทธิเดือนเมษายน-กันยายน 2567 โดยแบ่งจ่ายเป็น 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2567 จำนวน 300 บาท และครั้งสองในเดือนกันยายน 2567 จำนวน 300 บาท
  • เกิดระหว่าง 1 – 30 เมษายน 2507 จะได้รับสิทธิเดือนพฤษภาคม-กันยายน 2567 โดยแบ่งจ่ายเป็น 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2567 จำนวน 200 บาท และครั้งสองในเดือนกันยายน 2567 จำนวน 300 บาท
  • เกิดระหว่าง 1 – 31 พฤษภาคม 2507 จะได้รับสิทธิเดือนมิถุนายน-กันยายน 2567 โดยแบ่งจ่ายเป็น 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2567 จำนวน 100 บาท และครั้งสองในเดือนกันยายน 2567 จำนวน 300 บาท
  • เกิดระหว่าง 1 – 30 มิถุนายน 2507 จะได้รับสิทธิเดือนกรกฏาคม-กันยายน 2567 ซึ่งจะจ่ายในเดือนกันยายน 2567 จำนวน 300 บาท
  • เกิดระหว่าง 1 – 31 กรกฏาคม 2507 จะได้รับสิทธิเดือนสิงหาคม-กันยายน 2567 ซึ่งจะจ่ายในเดือนกันยายน 2567 จำนวน 200 บาท
  • เกิดระหว่าง 1 – 31 สิงหาคม 2507 จะได้รับสิทธิเดือนกันยายน 2567 และจะจ่ายในเดือนเดียวกัน จำนวน 100 บาท

 บัตรสวัสดิการฯ เตรียมรับ “เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ” เพิ่ม เริ่มโอนงวดแรก 11-13 มี.ค.