เงินอุดหนุนบุตร

วันสุดท้าย ลงทะเบียนรับเงินอุดหนุนจากรัฐ 3,000 บาท 3 เดือน

“รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน” ย้ำวันสุดท้าย SME ลงทะเบียนรับเงินอุดหนุนจากรัฐ 3,000 บาท 3 เดือน พร้อมสร้างความมั่นใจรัฐไม่นำเงินอุดหนุนไปคิดภาษีเงินได้

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผยว่า โครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs ที่ดำเนินการโดยกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน กำลังจะสิ้นสุดระยะเวลาลงทะเบียนในวันที่ 20 พ.ย. 64 หลังเปิดให้นายจ้าง สถานประกอบการลงทะเบียนรับสิทธิเป็นระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งมีสถานประกอบการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้ว 201,761 ราย หรือร้อยละ 51.12 ช่วยรักษาระดับการจ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทย 2,873,878 คน หรือร้อยละ 71.25

ขณะนี้ เหลือเวลาลงทะเบียนเพียง 1 วัน จากนั้นระบบจะปิดรับลงทะเบียนในวันที่ 20 พ.ย. 64 เวลาเที่ยงคืน และเริ่มเปิดให้ดำเนินการยื่นเรื่องขอทบทวนสิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ “ส่งเสริมการจ้างงานเอสเอ็มอี.doe.go.th” ตั้งแต่ 21 – 27 พ.ย. 64

สำหรับนายจ้างภาคเอกชนที่อยู่ในระบบประกันสังคม (ฐานทะเบียนข้อมูลประกันสังคม มาตรา 33 สถานะ Atcive) ที่มีลูกจ้างรวมทุกสาขาไม่เกิน 200 คน ณ วันที่ 16 ต.ค. 64 แต่ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์แล้วระบบแจ้งว่า “ขาดคุณสมบัติ” หรือมีการเปลี่ยนเจ้าของกิจการ เนื่องจากเจ้าของเดิมเสียชีวิต หรือสาเหตุอื่นๆ ก่อนวันที่ 16 ต.ค. 64 รวมทั้งกรณีอื่นๆ

ทั้งนี้ สำหรับนายจ้าง สถานประกอบการ ที่ยังมีความกังวลว่าจะมีการคิดภาษีย้อนหลัง จากเงินจำนวนนี้ที่รัฐบาลอุดหนุน ขอยืนยันอีกครั้งว่า กระทรวงแรงงาน มีความตั้งใจจะอุดหนุนเงินช่วยนายจ้างในโครงการฯ นี้ เพื่อเสริมสภาพคล่อง สร้างความแข็งแรงและฟื้นฟูกิจการในธุรกิจ SMEs โดยไม่มีการนำเงินอุดหนุนไปคิดเป็นรายได้ หรือคำนวณเป็นรายจ่ายในการหักภาษีแต่อย่างใด

ทางด้าน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ขอให้นายจ้าง/สถานประกอบการภาคเอกชนที่อยู่ในระบบประกันสังคม และมีลูกจ้างรวมทุกสาขาไม่เกิน 200 คน ที่ประสงค์ร่วมโครงการฯ สมัครร่วมโครงการ ผ่านเว็บไซต์ ส่งเสริมการจ้างงานเอสเอ็มอี.doe.go.th เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ ภายในวันที่ 20 พ.ย. 64 เพื่อรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ในอัตรา 3,000 บาทต่อลูกจ้างสัญชาติไทย 1 คนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ในเดือน พ.ย. 2564 – ม.ค. 2565 ในกรณีที่นายจ้างไม่สามารถลงทะเบียนร่วมโครงการฯ ผ่านระบบด้วยตนเอง

อย่างไรก็ตาม สามารถนำเอกสารซึ่งประกอบด้วย หนังสือมอบอำนาจติดอากรแสตมป์ 30 บาท สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร (กรณีใช้บัญชีกระแสรายวัน ให้ใช้สมุดหน้าเช็คที่มีชื่อนายจ้างและเลขบัญชี) และสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล หรือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (นายจ้างบุคคลธรรมดา) โดยลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ ติดต่อที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ หรือหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมให้ติดต่อได้ที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694.