“เผ่าภูมิ” ชี้แจงละเอียดวิธียืนยันตัวตน และลงทะเบียนรับสิทธิ “เงินดิจิทัล 10,000 บาท” กลุ่มสมาร์ทโฟน ย้ำภายใน 1 ส.ค.-15 ก.ย. เท่านั้น

เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 24 กรกฎาคม 2567 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าว “ดิจิทัลวอลเล็ต โครงการเพื่อประชาชน พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจแล้ววันนี้” ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล เป็นคนที่ 3 ต่อจาก นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ และ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง โดยชี้แจงและเน้นย้ำในเรื่องของการลงทะเบียนภาคประชาชน ซึ่งจะเปิดให้กลุ่มสมาร์ทโฟนลงทะเบียน 1 สิงหาคม – 15 กันยายน 2567 เท่านั้น

ขั้นตอนลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต กลุ่มสมาร์ทโฟน

โหลดแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ได้ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android พร้อมย้ำว่า จะไม่มีการส่งลิงก์ หรือโทรศัพท์ชักชวน หรือส่งข้อความทางไลน์ เพื่อชักชวนลงทะเบียนใดๆ ทั้งสิ้น 

ลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 แอปฯ “ทางรัฐ”

กลุ่มที่ 1 ผู้ไม่เคยลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ”

  • กดลงทะเบียนรับสิทธิ
  • กดยอมรับเงื่อนไขโครงการ 3 ข้อ ประกอบด้วย เงื่อนไขผู้รับสิทธิ เงื่อนไขโครงการ และเงื่อนไขแอปพลิเคชัน โดยต้องกดยอมรับเงื่อนไขทั้งสิ้น 3 ครั้ง
  • กรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลัก
  • กรอกชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ตามบัตรประชาชน
  • ถ่ายรูปตัวเองด้วยโทรศัพท์เพื่อยืนยันตัวตน โดยให้มีการขยับหน้าเล็กน้อย เพื่อให้ระบบจับว่าเป็นคนจริง ไม่ใช่รูปภาพ
  • ระบบจะส่งข้อมูลในบัตรประชาชนและรูปที่ถ่าย ไปที่ทะเบียนราษฎร เพื่อตรวจสอบว่าเป็นตัวจริงตามข้อมูลบัตรประชาชน และมีรูปตรงกับข้อมูลทะเบียนราษฎรหรือไม่ ขั้นตอนนี้อาจจะใช้เวลาประมาณ 1 วัน
  • กลับมาตรวจสอบอีกครั้งในแอปพลิเคชันทางรัฐ ถ้าข้อมูลตรง ให้ดำเนินการต่อ โดยการสร้างยูสเซอร์เนม (Username) พาสเวิร์ด (Password) และพินโค้ด (PIN Code) ขึ้น เป็นอันจบกระบวนการ ถือว่าได้ยืนยันตัวตนและขอรับสิทธิดิจิทัลวอลเล็ตเรียบร้อยแล้ว

กลุ่มที่ 2 ผู้ที่เคยลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” แล้ว 

  • กดลงทะเบียนรับสิทธิดิจิทัลวอลเล็ต
  • กดอนุญาตให้ตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคล
  • กดยอมรับเงื่อนไขผู้รับสิทธิ และเงื่อนไขโครงการ เป็นอันเสร็จสิ้น

ถูกปฏิเสธลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ทำอย่างไร

ทั้งนี้ จะมีการส่งข้อมูลไปตรวจสอบ 3 ส่วน ว่าผู้ลงทะเบียนรับสิทธิ มีอายุเกิน 16 ปีหรือไม่ โดยส่งข้อมูลไปที่กรมการปกครอง, มีรายได้เกิน 840,000 บาท หรือไม่ จะส่งข้อมูลไปยังกรมสรรพากร, มีเงินฝากเกิน 500,000 บาทหรือไม่ จะส่งข้อมูลตรวจสอบไปสถาบันคุ้มครองเงินฝาก

“ระบบจะตอบกลับ และแจ้งผลการตรวจสอบสิทธิให้ประชาชนทุกคนทราบ หลังจากวันที่ 22 กันยายน 2567 เป็นต้นไป โดยจะแจ้งว่าท่านได้รับสิทธิหรือไม่ ถ้าถูกปฏิเสธสิทธิ ระบบจะชี้แจงว่าถูกปฏิเสธสิทธิ ไม่ได้รับสิทธิเพราะอะไร โดยจะมีข้อแนะนำว่าถ้าจะอุทธรณ์สิทธิต้องทำอย่างไรต่อ” 

นายเผ่าภูมิ ระบุในช่วงท้ายว่า หากในระหว่างลงทะเบียน ถ้าประชาชนมีข้อซักถาม หรืออยากได้ข้อมูลเพิ่ม สามารถติดต่อไปผ่าน คอลเซ็นเซอร์ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน โทรศัพท์หมายเลข 1111, เว็บไซต์ www.digitalwallet.go.th หรือชื่อเว็บไซต์ภาษาไทย www.กระเป๋าเงินดิจิทัล.รัฐบาล.ไทย

“วันนี้รัฐบาลเราพร้อม และเราก็อยู่ในกระบวนการที่สร้างความพร้อมให้พี่น้องประชาชน เพื่อเราจะมาร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจไปพร้อมกัน”