Uncategorized

25-30 ก.ย.นี้ โอนเงิน 1 หมื่นบาท กลุ่มเปราะบาง-คนพิการ 14.5 ล้านคน

คลังเริ่มโอนเงิน 10,000 บาท ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน “กลุ่มเปราะบาง-คนพิการ” 14.5 ล้านคน วันที่ 25-30 ก.ย.นี้

วันนี้ (17 ก.ย.2567) นายพิชัย ชุณหวชิร รมว.คลัง แถลงภายหลังการประชุม ครม. ว่า ด้วยความจำเป็นเร่งด่วนจะมีการเติมเงินสู่ประชาชนในกลุ่มเปราะบาง หรือผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 12.40 ล้านคน และผู้พิการ 2.15 ล้านคน รวม 14.5 ล้านคน

นายพิชัย กล่าวว่า ตั้งใจจะจ่ายให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 25-30 ก.ย.นี้ แบ่งจ่ายวันละประมาณ 4 ล้านคน นอกจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจมาดูว่าจะจ่ายเฟส 2 อย่างไรและเมื่อใด

ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ประชาชนในกลุ่มสวัสดิการให้ความตื่นตัวในกระบวนการผูกพร้อมเพย์ หากใครตกหล่น หรือบัญชีมีปัญหาโอนไม่สำเร็จในครั้งแรก จะมีการโอนซ้ำ 3 ครั้ง (Retry) คือ วันที่ 22 ต.ค.2567, วันที่ 22 พ.ย.2567 และวันที่ 22 ธ.ค.2567 ทั้งนี้ ประชาชนสามารถใช้บัญชีที่มีอยู่แล้วในการผูกบัญชีพร้อมเพย์ได้

สำหรับกลุ่มคนที่ได้รับสิทธิในรอบนี้ คือ กลุ่มเปราะบาง คนพิการ เป็นกลุ่มคนที่มีความจำเป็นในการใช้จ่ายสูง คาดว่าเม็ดเงินที่ลงไปจะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้เร็วและเเป็นรูปธรรม จากการคำนวนคาดว่ามีผลต่อเศรษฐกิจ ร้อยละ 0.35 ต่อปี อีกทั้งเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ประชาชนกลุ่มนี้

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ส่วนการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ยังเดินหน้าต่อไป โดยจะเป็นเฟสต่อไปที่ต้องพิจารณา ยังไม่ลงรายละเอียด แต่มีกรอบระยะเวลาแล้วว่าจะเสร็จเมื่อใด โดยจะตั้งคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อดูงบประมาณที่มีอยู่ และโครงการต่าง ๆ รวมถึงดิจิทัลวอลเล็ต

ขณะที่นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า ปัจจุบันปิดการลงทะเบียนในกลุ่มผู้ที่มีสมาร์ทโฟน โดยยอดลงทะเบียน 36 ล้านคน ซึ่งต้องเช็กเงื่อนไขเพิ่มเติมในกรณีเงินฝากธนาคาร และตัดกลุ่มเปราะบางที่ได้รับในรอบแรกออกไป ส่วนกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนจะเปิดให้ลงทะเบียนต่อไป โดยเลื่อนออกไปเพราะเชื่อว่ามีชื่อซ้ำซ้อนกับกลุ่มเปราะบางค่อนข้างมาก

ด้านนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กลุ่มคนที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชน ขอให้รีบดำเนินการก่อนวันที่ 25 ก.ย.นี้ ส่วนกลุ่มคนพิการไม่ต้องทำอะไร เนื่องจากได้รับเงินสวัสดิการทุกเดือนอยู่แล้ว โดยจะมีเงิน 10,000 บาท เข้าบัญชีในวันที่ 25 ก.ย.นี้

สำหรับช่องทางหลักในการตรวจสอบสิทธิและผลการได้รับเงินในโครงการ สามารถตรวจสอบสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.2567 เป็นต้นไป ผ่านเว็บไซต์ https://โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ2567.cgd.go.th เว็บไซต์ https://govwelfare.cgd.go.th เว็บไซต์ https://govwelfare.dep.go.th/check (เฉพาะคนพิการ) แอปพลิเคชัน “รัฐจ่าย” (โดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง) และศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ โทร. 0 2109 2345 กด 1 กด 5 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง

“คลัง” เลื่อนแจ้งรับสิทธิ์ แจกเงิน “10,000 บาท”

รมช.คลัง ประกาศเลื่อนแจ้ง รับสิทธิ์ “เงิน10,000” วันที่ 22 ก.ย.ออกไปก่อน และ 16 ก.ย. เลื่อนลงทะเบียนคนไม่มีสมาร์ทโฟน เผย มีผู้ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐวันสุดท้าย กว่า 33 ล้านราย

วันนี้ (15 ก.ย.2567) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันนี้ (15 ก.ย.) เป็นวันสุดท้ายที่รัฐบาลเปิดลงทะเบียนรับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทวันสุดท้ายบนแอปทางรัฐ ล่าสุดมีประชาชนลงทะเบียนทางรัฐรับเงินดิจิทัล10,000 ประมาณ 33 ล้านราย หลังจากนั้นตรวจสอบสถานะอุทธรณ์

ส่วนเรื่องประกาศรับสิทธิ์นั้นจะเลื่อนประกาศวันที่ 22 ก.ย.ออกไปก่อน พร้อมทั้งเลื่อนการเปิดลงทะเบียน สำหรับคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ผ่าน 3 ธนาคารรัฐ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ซึ่งมีกำหนดจะเริ่มเปิด 16 ก.ย.เช่นกัน เนื่องจากต้องการรอให้กระบวนการจ่ายเงินในเฟสแรกกลุ่มเปราะบาง คือ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้พิการ จำนวน 14.5 ล้านคน เสร็จสิ้นก่อน

สำหรับคุณสมบัติและข้อกำหนดการเข้าร่วมโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท สำหรับประชาชน มีดังนี้ เป็นผู้ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน สัญชาติไทย มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ปิดรับลงทะเบียน ไม่เป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566 โดยกรมสรรพากรประมวลผลข้อมูล ผู้มีรายได้ 7 วัน ก่อนเปิดลงทะเบียนโครงการ

สำหรับเงินฝากไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 รวมกันเกิน 500,000 บาท โดยเป็นการตรวจสอบเงินฝาก จำนวน 6 ประเภท ได้แก่ เงินฝากกระแสรายวัน เงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจำ
บัตรเงินฝาก ใบรับฝากเงิน ผลิตภัณฑ์เงินฝากในชื่อเรียกอื่นใดที่มีลักษณะเดียว

เงินฝาก หมายถึงเฉพาะเงินฝากที่อยู่ในรูปสกุลเงินบาทเท่านั้น และไม่รวมถึงเงินฝากในบัญชีร่วม

ส่วนเงื่อนไขข้อห้าม ต้องไม่เป็นผู้ที่มีสถานะ ดังนี้ ผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ ผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ

อย่างไรก็ดี ให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์ไว้ก่อน หลังจากนั้นรัฐบาลจะพิจารณาจัดสรรเงินจากงบประมาณปี 68 มาให้กับผู้ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติต่อไป