วิธีลงทะเบียนลดค่าน้ำ-ค่าไฟ
วิธีลงทะเบียนลดค่าน้ำ-ค่าไฟ
คลังเร่งสรุปหลักเกณฑ์เปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ชัดเจนภายใน 1-2 เดือนนี้ ชี้นำรายได้ครัวเรือนมาใช้ในการคัดกรอง คนเคยถือบัตรแล้วต้องลงทะเบียนใหม่
วันที่ 4 ตุลาคม 2564 นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การพิจารณาหลักเกณฑ์การลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการวางหลักเกณฑ์คัดกรองให้รัดกุมยิ่งขึ้น ก่อนเสนอคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ที่มีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานอีกครั้ง
“ไม่เกินช่วงต้นเดือน ธ.ค. นี้ จะชัดเจนในเงื่อนไขคัดกรองใหม่ ส่วนช่วงเวลาที่จะเปิดให้ลงทะเบียน ยังต้องพิจารณาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดด้วย แม้ช่วงปลายปีจำนวนผู้ได้รับวัคซีนจะมากขึ้น แต่ก็ยังมีความเสี่ยงในการติดเชื้ออยู่ ดังนั้นจึงต้องดูสถานการณ์รวมถึงวิธีการเปิดลงทะเบียนอีกครั้ง” นายพรชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันมีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ราว 13.65 ล้านคน ซึ่งการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ เพื่อเพิ่มการคัดกรองให้รัดกุมยิ่งขึ้น และเปิดโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยที่ไม่เคยได้รับสิทธิให้สามารถเข้ามาสมัครได้ ส่วนกลุ่มที่ถือบัตรฯอยู่แล้ว ก็จะต้องลงทะเบียนเพื่อคัดกรองคุณสมบัติใหม่ด้วยเช่นกัน
เปิดช่องทาง-ขั้นตอนลงทะเบียนรับสิทธิ “ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ” ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ต.ค. 64-ก.ย. 65
เปิดให้ประชาชนสามารถลงทะเบียนส่วนลดค่าไฟฟ้า 315 บาท ซึ่งรับสิทธิ์ใช้ไฟฟ้าฟรีตั้งแต่ เดือนตุลาคม 64 ถึง เดือนกันยายน 65
ให้ 1 สิทธิ์บัตร/1 ครอบครัว
วิธีลงทะเบียนลดค่าน้ำนาน 1 ปี
เปิดวิธีการลงทะเบียน “ลดค่าน้ำ ” โดยผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้สิทธิ์ลงทะเบียน
ตามมาตรการบรรเทาภาระของประชาชน
ตั้งแต่เดือนตุลาคม 64 – กันยายน 65 เป็นเวลา 12 เดือน
ขั้นตอนกาารลงทะเบียนรับส่วนลดค่าน้ำ
1.ลงทะเบียนรับสิทธิลดค่าน้ำผ่านทางเว็บ
- “การประปาส่วนภูมิภาค” ไปที่เว็บไซต์ https://payment.pwa.co.th/welfare-register/
- “การประปานครหลวง” ไปที่เว็บไซต์ https://eservicesapp.mwa.co.th/welfareregist
2.กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ชื่อ-นามสกุล ของผู้ลงทะเบียน (ตามบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ)
3.กรอกเลขบัตรประชาชนของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้ลงทะเบียน
4.กรอกอีเมลล์ของผู้ลงทะเบียน (ถ้ามี), เบอร์โทรศัพท์ของผู้ลงทะเบียน (ถ้ามี)
5.เลือกสาขาของบ้านที่จะใช้สิทธิสวัสดิการ
6.กรอกเลขที่ผู้ใช้น้ำ เลขที่ผู้ใช้น้ำของบ้านที่จะใช้สิทธิสวัสดิการ
7.เลือกรูปภาพที่ปรากฏให้ถูกต้อง และคลิกที่ปุ่ม “ตกลง”
* กรณีผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ไม่เคยใช้สิทธิ์ลดค่าน้ำประปามาก่อน และประสงค์จะขอรับสิทธิ์
สามารถไปลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ที่สำนักงานการประปานครหลวงและสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค
พร้อมทั้งแสดงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อยืนยันตัวตน
เงื่อนไขของการลงทะเบียน
– รัฐบาลสนับสนุนค่าน้ำประปา วงเงิน 100 บาท /ครัวเรือน /เดือน
ในกรณีใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท
โดยส่วนเกินต้องชำระด้วยตนเอง
– กรณีการใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท ผู้มีบัตรฯ
รับภาระในการชำระค่าน้ำประปาเองทั้งหมด
ครอบคลุมประมาณ 186,625 ครัวเรือน
วิธีลงทะเบียนค่าไฟฟ้าของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
สำหรับผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจน
สามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์ส่วนลดค่าได้ฟ้าสูงสุดได้ 315 บาท ต่อ 1 ครอบครัว
- การไฟฟ้านครหลองไทย
- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
เมื่อลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้วคุณจะได้รับสิทธิ์ในรอบบิลถัดไป เช่น หากลงทะเบียนในต้นเดือนตุลาคม
คุณจะได้รับเงินคืนในรอบวันที่ 18 พฤศจิยายน เป็นต้น (เลทสุด 18 ธันวา)
เงินจะคืนมาในรูปแบบของ e-Money ภายในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจนนั่นเอง
โดยจะได้รับในทุกวันที่ 18 ของเดือน สามารถกด ATM ได้
วอล์กอิน ลงทะเบียน ลดค่าน้ำ ค่าไฟ
ลดค่าไฟ : ผู้มีบัตร ที่ไม่เคยใช้สิทธิค่าไฟฟ้ามาก่อน และประสงค์จะขอรับสิทธิ สามารถไปลงทะเบียน
เพื่อขอรับสิทธิได้ที่สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กิจการไฟฟ้า
สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ พร้อมทั้งแสดงบัตร
ลดค่าน้ำ : ผู้มีบัตร ที่ไม่เคยใช้สิทธิลดค่าน้ำประปามาก่อน และประสงค์จะขอรับสิทธิ
สามารถไปลงทะเบียนรับสิทธิได้ที่สำนักงานการประปานครหลวง และสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค
พร้อมทั้งแสดงบัตรเพื่อยืนยันตัวตน
ขั้นที่ 1 เข้าเว็บ เพื่อทำการลงทะเบียนขอรับส่วนลดค่าไฟฟ้า สูงสุด 315 บาท ต่อ 1 ครอบครัว
- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค : เข้าเว็บไซด์ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค > โดยกดที่ลงทะเบียนส่วนลดค่าไฟ
- การไฟฟ้านครหลวง : > โดยกดที่ลงทะเบียนรับส่วนลดค่าไฟ
ขั้นที่ 2 อ่านรายละเอียด จากนั้นกดยอมรับเงื่อนไข
อย่าลืมกดยอมรับเงื่อนไข
เงื่อนไข
- ได้ 1 สิทธิ์ ต่อ 1 ครอบครัว ต่อ 1 เดือน
- หากเดือนไหนใช้ค่าไฟเกิน 315 บาท ท่านต้องจ่ายเอง
- ต้องจ่ายค่าไฟในเดือนนี้ปกติ แล้วเงินจะคืนให้ในเดือนหน้า ทุกวันที่ 18
- หากใช้ไฟไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือน (จะได้สิทธิ์ใช้ฟรีอยู่แล้ว) ก็จะไม่ได้สิทธิ์นี้
- ต้องกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนตามที่กำหนด
- มีการขยายสิทธิ์ ตั้งแต่ ตุลา 64 – กันยา 65
เงื่อนไขการใช้สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
1. ผู้ใช้ไฟฟ้าต้องเป็นผู้มีสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับสิทธิ 1 สิทธิต่อครัวเรือนต่อบิลเดือน และต่อหนึ่งหมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้าเท่านั้น
2. ผู้มีสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับเงินช่วยเหลือค่าไฟฟ้าประจำเดือน ตามที่ระบุในใบแจ้งค่าไฟฟ้าแต่ไม่เกิน 230.-บาท
(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ต่อครัวเรือนต่อบิลเดือน กรณีที่ค่าไฟฟ้าเกิน 230.-บาท(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) จะไม่ได้สิทธิจากมาตรการนี้
3. ผู้ใช้ไฟฟ้าต้องชำระเงินค่าไฟฟ้าเต็มจำนวนตามที่ระบุในใบแจ้งค่าไฟฟ้า
และกรมบัญชีกลางจะจ่ายเงินคืนผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ต่อไป
4. ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับสิทธิไฟฟ้าฟรีไม่เกิน 50 หน่วยในเดือนใด จะไม่ได้รับสิทธิตามบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในเดือนนั้น
5. ผู้มีสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และต้องการใช้สิทธิในการช่วยเหลือค่าไฟฟ้า ต้องลงทะเบียนผ่านช่องทางที่
กฟภ. กำหนด และให้ข้อมูลถูกต้องครบถ้วน6. เริ่มตั้งแต่ค่าไฟฟ้าประจำเดือน ธ.ค. 2561 – ก.ย. 2564
ขั้นที่ 3 กรอกข้อมูล
กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
- เลขบัตรประชาชน
- กรอเลขบัตรคนจน 16 หลัก หลังบัตร
- เบอร์โทรศัพท์ 10 หลัก
- หมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้า โดยนำเลขที่อยู่ในบิลมากรอก
- รหัสเครื่องวัดไฟฟ้าฃ
- บิลประจำเดือน
- จำนวนเงินค่าไฟ
มาตราการลดค่าไฟ
1.ได้สิทธิค่าไฟฟรี หากใช้ไม่เกิน 50 หน่วย/เดือน ติดต่อกัน 3 เดือน
2.กรณีเกิน 50 หน่วย/เดือน รัฐจะสนับสนุนวงเงิน 315 บาท/ครัวเรือน/เดือน
3.หากใช้เกินวงเงิน ผู้ถือบัตรฯ จะต้องชำระค่าไฟทั้งหม
ขั้น 4 ยืนยันข้อมูล
ตรวจสอบข้อมูลให้เรียบร้อย หากไม่ถูกต้องให้กดย้อนกลับ เพื่อแก้ไข หากถูกต้องแล้ว กด บันทึกข้อมูล
ขั้นที่ 5 บันทึกข้อมูลสำเร็จ
- ลงทะเบียนรับสิทธิลดค่าน้ำ ‘ส่วนภูมิภาค’
1. เข้าสู่เว็บไซต์ https://payment.pwa.co.th
2. กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
- ชื่อ-นามสกุล ของผู้ลงทะเบียน (ตามบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ)
- เลขบัตรประชาชนของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้ลงทะเบียน
- E-mail ของผู้ลงทะเบียน (ถ้ามี)
- เบอร์โทรศัพท์ ของผู้ลงทะเบียน (ถ้ามี)
- กปภ.สาขา ของบ้านที่จะใช้สิทธิสวัสดิการ
- เลขที่ผู้ใช้น้ำ เลขที่ผู้ใช้น้ำของบ้านที่จะใช้สิทธิสวัสดิการ
- เลือกรูปภาพที่ปรากฏให้ถูกต้อง และคลิกที่ปุ่ม “ตกลง”